หลวงพ่อปาน..กับการชำระหนี้สงฆ์ โดย เจ้าคุณเบอร์ลิน

หลวงพ่อปาน 

กับการชำระหนี้สงฆ์.!




วิบากกรรม และผลบุญ

ที่ทุกคนต้องรู้.!

ความคิดละเอียดอ่อนที่พร่ำสอนไม่ให้ต้องไปตกอเวจีมหานรกใครที่กำลังคิดยึดสมบัติสงฆ์จงระวังไว้ให้ดี..


วันนี้ผมจะมาชวนคุยเรื่องละเอียดอ่อนสักเรื่องนะครับ เป็นเรื่องที่คนกลัวตกนรกเขาระวังกันมากแม้แต่ระดับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา ท่านยังกลัว


ศิษย์สายหลวงพ่อเนียม วัดน้อย บางปลาม้า สุพรรณบุรี ล้วนเน้นต้องทูลเชิญพระพุทธเจ้ามาทำพิธีกรรมต่าง ๆ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย เป็นอาจารย์เฒ่าฝ่ายวิปัสสนาชื่อดัง เมืองสุพรรณบุรี ศิษย์สายนี้ล้วนมีชื่อเสียงทั้งสิ้นมี

หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน 
หลวงพ่อเนื่อง วัดสองพี่น้อง 
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา 
หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ กทม. 
เรื่อยมาถึง หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัย


พระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน)
วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

หลวงพ่อโหน่ง โตงาม เป็นพระที่หลวงพ่อปาน เคยบอกว่าท่านเป็นพระอรหันต์ และศิษย์ล่ำลือมีพระธาตุเกิดขึ้นในปากของท่าน

ส่วนหลวงพ่อปานนั้นเชื่อกันว่าท่านสำเร็จอภิญญาชั้นสูง ปรารถนาพุทธภูมิ ตอนนี้อธิษฐานไม่เกิดเป็นมนุษย์แล้วเพื่อรอพระศรีอารย์ เป็นที่ทราบกันว่าศิษย์สายนี้หากจะประกอบพิธีใดๆ ที่เป็นมงคล ล้วนทูลเชิญพระพุทธเจ้าลงมาเป็นประธานทั้งสิ้น ห้ามมนุษย์ทำกันเองแม้แต่พิธีปลุกเสกพระเครื่องก็ตามเรื่องท่องนรกสวรรค์สายนี้เขาช่ำชองทุกคน แม้แต่ศิษย์ฆราวาส

ขึ้นชื่อว่า พระสงฆ์ ประมาทนิดเดียวก็ตกนรกแล้วพวกฆราวาสที่แค่ศีล 5 ยังกระท่อนกระแท่นขอเตือนว่าผู้ฉลาด (โง่ไม่เกี่ยว) อย่าบังอาจล่วงเกินพระสงฆ์เด็ดขาดนะครับ

เพราะอย่างน้อยศีลท่านก็มากกว่าเราอยู่แล้ว แม้ท่านจะไม่ใช่อริยสงฆ์ก็ตามตื่นเช้ามาพระท่าน ก็ไหว้พระ สวดมนต์ ทำกิจสงฆ์ตามวิถีชีวิตสมณะส่วนพวกเราฆราวาสตื่นเช้ามา เมียก็ด่าแล้ว และต้องไปดิ้นรนหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอีก เพียงแค่นี้ก็เทียบกันไม่ได้แล้วมีสิทธิตรงไหนที่จะไปล่วงเกินพระสงฆ์ท่าน

ส.ศิวรักษ์ (อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์)
นักเขียน และนักวิชาการอิสระ


ฆราวาสขาประจำ

ประดิษฐ์คำด่าพระ

จะมาอ้างหน้าที่ อ้างกฎหมาย แต่กฎแห่งกรรมเขาไม่ยกเว้นนะครับส่วนวลีมั่ว ๆ ที่ อ.สุลักษณ์ แกประดิษฐ์ขึ้นโก้ ๆ แพร่ในสังคมเท่ห์ๆ ว่า..

"อ้าว...แล้วพระไม่ขอข้าวชาวบ้านกินหรอ"

รู้ไหมเรื่องนี้พระทั่วประเทศเขาฝาก เจ้าคุณเบอร์ลิน มาถามกลับว่า..

"อ้าว.. แล้วเวลาตาย อาจารย์จะไม่นิมนต์พระไปสวดศพหรอ เวร..."

พูดมาได้ไงอาจารย์เอ้ย (อาจารย์ผมเอง) พูดให้เขาโต้ได้ เลิกพูดหากินคำนี้กันได้แล้วนะครับ นอกจากที่ใครเวลาจะตาย คุณจะได้สั่งญาติไว้ว่า..

"ถ้ากูตาย อย่าเอาศพกูไปเกี่ยวกับวัดกับพระนะ" ถ้ายังงี้ก็เชิญต่อครับ


หลวงพ่อฤาษีลิงดำแจง

ทำไม..พระยังเป็นหนี้.?

ตู้บริจาคที่เขียนว่า "ชำระหนี้สงฆ์" ตามวัดต่าง ๆ ของศิษย์สายนี้หากเราเข้าไปจะเห็นตู้บริจาคเขียนไว้ว่า "ชำระหนี้สงฆ์" มีคนเคยไปถามหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัยว่า..หลวงพ่อ พระสงฆ์ทำไมยังมีหนี้ ท่านตอบว่าดังนี้ หนี้สงฆ์มี 2 ประเภทคือ

ข้อที่ 1 

หนี้ที่เจ้าอาวาสไปติดร้านก่อสร้าง เพื่อเอามาสร้างโบสถ์วิหารก่อน พอได้กฐินผ้าป่ามาก็เอาไปชำระหนี้

ข้อที่ 2 

คือหนี้ที่เกิดจากพวกเรา ที่ไปใช้ประโยชน์จากของสงฆ์ เช่น เข้าไปวัด แล้วใช้น้ำใช้ไฟ หรือหยิบยืมของวัดมาแล้วชำรุด หรือไปเก็บผลไม้ในวัดมากิน

เพิ่มเติมว่า.. 
แม้แต่ใส่รองเท้าเข้าวัดแล้วเดินออกมา มีเศษดินเศษทรายติดออกมานี้ก็เป็นการติดหนี้สงฆ์ทั้งสิ้น (จึงมีประเพณีขนทรายเข้าวัด) มีความละเอียดอ่อน

เพิ่มมาอีกข้อ 
แม้ขนาดไม้หรือที่ดิน ที่เราเอามาสร้างบ้านเรือนอยู่ก็อาจเป็นของสงฆ์ลอยมา หรือเป็นที่ธรณีสงฆ์มาก่อนก็ได้

ดังนั้น เพื่อเป็นการชำระหนี้สงฆ์ส่วนนี้หากเราเห็นตู้บริจาคที่เขียนว่า "ชำระหนี้สงฆ์" ก็ให้ใส่ตู้ไปทุกครั้งตามศรัทธามากน้อยก็ได้เพื่อจะไม่ติดหนี้สงฆ์
พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) 
หรือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
วัดจันทราราม (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี

บทขยายความ

หลวงพ่อปานชำระหนี้สงฆ์ 


ธรรมะโอวาทของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ท่านกล่าวว่า.. ต่อไปนี้ก็จะขอนำเรื่องการชำระหนี้สงฆ์พร้อมทั้งตัวอย่างซึ่งจัดว่าเป็นเกร็ดความรู้ที่ได้ประสบมาเองมาเล่าให้ฟังเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย จะได้นำไปประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง

อีกทั้งจะได้เป็นเครื่องป้องกันตัวเอง และผู้อื่นไม่ให้กระทำความชั่วต่างๆ ที่เกี่ยวกับของสงฆ์อีก ทั้งนี้ก็เพราะว่าของทุกอย่างที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสมบัติของสงฆ์แล้วจะเป็นสิ่งของ หรือวัตถุเครื่องใช้อะไรก็ตามจะมีราคามากหรือน้อยก็ตาม

ผู้ที่นำไปใช้โดยพลการ หรือทำสิ่งของเหล่านั้นเสียหาย จะต้องนำสิ่งของเหล่านั้นมาทดแทนให้เหมือนเดิม ไม่เช่นนั้นจะทำให้ผู้ล่วงละเมิดลงสู่อเวจีมหานรกได้โดยง่าย

บุญ-กรรม..ชำระหนี้สงฆ์

ยุคปัจจุบันเริ่มเลือนลาง

ในสมัยนี้จะหาบุคคลที่เล่าเกี่ยวกับการชำระหนี้สงฆ์นี่ยากเต็มที พระขนาดไหนก็ตามไม่ค่อยจะมีใครพูดกัน เทศน์ก็ไม่เคยฟัง ได้ฟังอยู่สำนักเดียวคือสำนักของหลวงพ่อปานเท่านั้น

หลวงพ่อปานนี่ท่านพูดถึงการชำระหนี้สงฆ์ทุกปี พอขึ้นปีใหม่หรือเข้าพรรษาใหม่ๆ ท่านก็ประกาศขอซื้อของสงฆ์คำว่า ซื้อของสงฆ์ นี่ท่านซื้อไม้ไผ่ ซื้อผลไม้ ซื้อดอกไม้ที่มีในวัดทั้งหมดปีละ ๑๐๐ บาทในสมัยนั้นค่าของเงินสูงมากท่านขอซื้อไว้ทั้งหมด

เมื่อ พระสงฆ์..สาธุ ท่านจะมอบเงินจำนวนนั้นเป็นสมบัติของสงฆ์เป็นสิทธิของสงฆ์ที่จะพึงใช้ จะใช้ได้ก็ต้องเอาเงินจำนวนนั้นไปใช้ในการก่อสร้าง หรือบำรุงสงฆ์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาท่านจะชวนพระชำระหนี้สงฆ์ ตัวท่านเองก็ชำระหนี้สงฆ์เหมือนกัน
วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๑๗
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ 
และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนิน
ไปยังวัดบางนมโค ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อปานเป็นเจ้าอาวาส



คำว่า..ของสงฆ์

พระพุทธเจ้าเป็นประธาน

คราวนี้มาว่ากันถึง การซื้อของสงฆ์ หรือ ชำระหนี้สงฆ์ ก่อนท่านทั้งหลายอาจสงสัยว่าของต่างๆ ที่เป็นสิ่งก่อสร้างก็ดีวัสดุเครื่องใช้ต่างๆ ก็ดี หรือต้นไม้ใบหญ้าก็ดี ของที่อยู่ในวัดทั้งหมดถ้าหากเรานำเอาไปใช้แล้วเกิดชำรุดเสียหาย ทำไมเราจะต้องสร้างแทนของเดิม

ทั้งนี้เพราะทรัพย์สินต่างๆ ที่เขาสร้างไว้ในวัด เขาไม่สร้างให้พระองค์ใดองค์หนึ่ง เขาสร้างถวายบูชาพระพุทธเจ้า 

คำว่า ของสงฆ์ นี่นะต้องหมายถึง พระพุทธเจ้าเป็นประธาน เป็นของส่วนกลาง ไม่มีใครหรอกที่จะถือสิทธิว่าเป็นของฉันจะมาชี้ว่า สมบัตินี่เป็นของฉันเป็นของส่วนตัว ถ้าทำอย่างนั้นจะ ต้องลงนรกหมด 

เรื่องนรกนี่เขาไม่เว้นใครหรอก หลวงพ่อปานซื้อของสงฆ์ เพราะของเหล่านี้มันอยู่ในวัด ท่านเป็นประมุขของวัด 

ความจริงถ้าเราจะคิดกันอย่างเราๆ ก็คิดว่าท่านควรมีสิทธิ ท่านจะให้ใครก็ได้ท่านจะกินจะใช้อย่างไรก็ได้ แต่ทว่าพระวินัยแล้วไม่มีสิทธิ ของในวัดถ้าพระองค์ไหนปลูกไว้ถ้าเขาสึกแล้วก็ตาม เขาตายแล้วก็ตาม ของเหล่านั้นเป็นของสงฆ์

ถ้าหากเขายังบวชอยู่ เขามีอำนาจให้ใครก็ได้ กินเองก็ได้ ถ้าหากว่าเขาตายหรือสึกไปแล้วพระองค์ใดองค์หนึ่งจะถือเป็นทายาทกินเองก็ดี ใช้เองก็ดีทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเป็นของสงฆ์เสียแล้ว เวลาจะกินจะใช้ก็ต้องประชุมสงฆ์ สงฆ์ทั้งหมดต้องประชุมอนุมัติว่าเราจะกินจะใช้ของประเภทนี้ด้วยวิธีการอย่างไร

ถ้าหากว่าพระองค์ใดองค์หนึ่งก็ตาม เด็กก็ตาม ฆราวาสก็ตาม กรรมการวัดก็เถอะไปถือสิทธิ์ว่าฉันเป็นเจ้าหน้าที่ในวัดจะกินลูกไม้ลูกไหนก็ได้ จะเด็ดดอกไม้ดอกไหนก็ได้ จะโค่นต้นไม้ต้นไหนก็ได้ ไม้ลำไหนก็ได้ หน่อไม้หน่อไหนก็ได้

เอามากินมาใช้ส่วนตัวโดยที่สงฆ์ไม่ลงมติอนุมัติ อย่างนี้มีโทษไปอเวจีมหานรกแน่.!

วิธีซื้อของสงฆ์

ของหลวงพ่อปาน.?

วิธีการของหลวงพ่อปานท่าน ซื้อของสงฆ์ ท่านซื้อแบบไหนท่านบอกว่าต้นไม้ก็ดี ต้นเล็กๆ ไม่ใช่โค่นต้นใหญ่นะ ไม้ลำหรือไม้หน่อบางส่วนไม่ใช่ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนเล็กน้อย หรือว่าลูกไม้ก็ตาม ดอกไม้ก็ตาม ถ้าใครจะเด็ดเอาไปดมเอาไปบูชา

ท่านบอกว่าส่วนเล็กน้อยประเภทนี้ ฉันขอซื้อของสงฆ์ด้วยจำนวนเงิน ๑๐๐ บาท เพื่อป้องกันโทษของบุคคลผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ พระสงฆ์ก็..สาธุ

เป็นอันว่าเด็กก็ดี ผู้ใหญ่ก็ดี ที่ได้กินมะม่วงบ้าง ฝรั่งบ้าง ผลไม้ที่มีอยู่ในวัดมีอยู่เยอะ ใครอยากกินอะไรก็เอามากินได้ตามชอบใจเพราะหลวงพ่อปานท่านซื้อแล้ว พอท่านซื้อท่านก็ให้สิทธิ์อนุญาต อย่างนี้เอาไปกินเอาไปใช้ได้

เรื่องชำระหนี้สงฆ์ พอถึงวันเข้าพรรษาคนทำบุญมากท่านก็ประกาศแก่คนทุกคนว่าใครจะชำระหนี้สงฆ์บ้างของสงฆ์ตกอยู่ที่ไหนเรียกว่า ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ 

ใครยึดแผ่นดินสงฆ์

จะซวยขนาดหนัก.!

อย่างวัดร้างที่ปรากฏเป็นดินเปล่า ไม่มีฐานะแสดงว่าเป็นวัดก็ดี หรือบางแห่งแสดงฐานะว่าเป็นวัดแต่อยู่ในป่าในดงก็ตาม หรือที่มีพระก็ตามเราจะไปนำสิ่งของอะไรมาก็ตามในเขตนั้น จะเป็นต้นหญ้าสักต้น ไม้หักสักอันก็ตามเขาถือว่า ของเหล่านั้นเป็นของสงฆ์ 

หรือว่าถ้าใครยึดแผ่นดินของสงฆ์ไว้เป็นสมบัติส่วนตัว ละก็ ซวยขนาดหนัก แบบนี้มีผู้เรืองอำนาจรุกรานสงฆ์เคยตกนรกขุมที่ ๗ มาแล้ว

ท่านก็บอกว่าคนเราทั้งหมดนี่นะจะรู้ได้อย่างไร ไม้ลอยน้ำมาหน้าบ้าน เราเห็นว่าไม่มีเจ้าของเอาเข้ามาทำฟืน แต่ถ้าไม้นั้นมันมาจากวัดก็ถือว่าเป็นไม้ของวัดเป็นของสงฆ์ไปเอาเข้ามันก็บาป ต้นไม้ หญ้า ต้นฟาง ที่มันอยู่กลางทุ่ง สถานที่อย่างนั้น

อาจจะ เคยเป็นวัดมาก่อน ก็ได้เขาเคยถวายเป็นของสงฆ์ แต่ว่าสภาพวัดมันสูญไป ของที่อยู่ในวัดนั้นทั้งหมดแม้แต่แผ่นดินก็ยังเป็นของสงฆ์

เราไปเอาต้นหญ้ามาต้นเดียวก็เป็นบาปแล้ว โทษของสงฆ์นี่หนักมากแล้วท่านก็ชวนชาวบ้าน ชำระหนี้สงฆ์ ว่าใครจะชำระหนี้บ้างด้วยเงินจำนวนเท่าไหร่ก็ตาม เอามารวมกันแล้วประกาศต่อหน้าสงฆ์ขอชำระหนี้สงฆ์

เปรตแบกแผ่นดิน ตอนมีชีวิตอยู่ทำตัวหนักแผ่นดินทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย.. เปตรอีกา มีควันและไฟเผาครอกร่างตลอดเวลา ตอนมีชีวิตอยู่ชอบไปจิกกินของที่เขาถวายสงฆ์ เผาวัด เผากุฏิ ฯลฯ


ทุบวัด ยึดวัด 

ติดป้ายอายัดใช้อำนาจ

แลกกับไฟในนรก.!

โพสต์ครั้งนี้หาก จนท. ที่มีอำนาจมาอ่านแล้วก็ขออย่าไปหลงผิด ไปทุบทำลายวัด ยึดวัด ติดป้ายอายัดสมบัติสงฆ์ดังที่ทำอยู่ในขณะนี้เลยนะครับนี่มันเกินติดหนี้สงฆ์เสียอีกให้ได้ฉุกใจยั้งคิดว่าอย่าไปล้อเล่นกับไฟนรก

ก็ขนาดหลวงพ่อปาน ผู้ได้ชื่อว่าปรารถนาพุทธภูมิ มีผู้คนเคารพนับถือท่านกันทั้งประเทศ แม้แต่องค์พระประมุขแผ่นดินยังเคยเสด็จไปกราบไหว้ ถึงวัดบางนมโคท่านก็ยังเกรงกลัว และละอายต่อบาป ที่พวกเราอาจเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยกันขนาดนี้เลยครับ

แม้แต่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง ที่คนนับถือทั่วประเทศ ก็ยังต้องคอยเน้นการชำระหนี้สงฆ์ พร้อมยกตัวอย่างว่า ..

"ใครรุกรานสงฆ์ จะต้องซวยขนาดหนัก ...ผู้เรืองอำนาจเคยพบตกนรกขุมที่ ๗ มาแล้ว"

แล้วพวกท่านที่กำลังใช้อำนาจในทางผิด ทำเรื่องย่ำยี สร้างเรื่องให้ร้ายพระสงฆ์กันอยู่นั้นถามว่า..

พวกท่านคิดว่าตัวเองเหนือกว่า พระสงฆ์ระดับหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำอย่างนั้นหรือครับหรือว่าพวกท่านคิดว่าพากันอยู่เหนือ กฎแห่งกรรม ได้รับการยกเว้นไม่ให้ ตกอเวจีมหานรก


ลาภยศ เงินทอง

ที่เป็นอัปมงคล.!

อันลาภ ยศ ที่ได้มาจากการทำชั่ว ก็ล้วนมาจากกลุ่มคนชั่วด้วยกันทั้งนั้นที่เชิดชูกันเอง คนดี ๆ ที่ไหนเขาจะมายกย่องคนทำชั่วเล่าแก้วแหวนเงินทองที่ได้จากทำชั่ว ท่านเอามาใช้สอย ก็ไม่เป็นมงคลกับชีวิตตนเองเอาไปทำทานก็ไม่ได้อานิสงส์หรอกครับ


ปีใหม่แล้ว ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ กลับตัวกลับใจตอนนี้ ก็ยังไม่สายไอ้ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปดีชั่วก็รับผลกันไป ย้อนเวลาไปแก้ไขไม่ได้แล้ว ปีใหม่ก็ควรคิดเริ่มทำดีกันดีกว่าครับรักตัวเองได้แล้วนะครับ ก่อนที่จะสายเกินไป

อายุคนเรามันสั้นนักอายุแก่ ๆ กันขนาดนี้แล้ว จะหมดลมหายใจไปเมื่อไรก็ยังไม่รู้ ผ่านอะไรมาก็สารพัด คิดออกกันสักทีขนาดเรื่องบาปที่เราดูเพียงเล็กน้อย เช่น เรื่องชำระหนี้สงฆ์นี้ ระดับหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ท่านยังว่าตกอเวจีนรกขุมที่ ๗ เลย


ทำบุญไม่คุ้มบาป..

ด้วยความปรารถนาดีพวกฆราวาสที่ศีล 5 ยังไม่ครบพากันก้าวล่วงพระธรรมวินัยของสงฆ์ร่วมย่ำยี่พระสงฆ์ แม้แต่คดีความก็แปะส่งเดช ให้แก่พระสงฆ์รายชั่วโมง แบบนี้มันจะเหลือหรือครับ

ลำพังแค่บุญใส่บาตรพระวันปีใหม่ แถมสิ่งของที่นำมาใส่บาตรก็เป็นของคนอื่นที่เขานำมาจัดไว้ให้ใส่ ไม่ใช่ของตนเองสักหน่อยแค่นี้มันไม่เพียงพอในการไถ่บาปที่ท่านร่วมทำแก่พระสงฆ์หรอกนะครับท่านนายก.!

แค่ท่านยืนให้สัมภาษณ์ทีเดียว อานิสงส์วันนั้นก็หายเกลี้ยงแล้วแต่หากท่านนายก ท่านยังเชื่อสนิทใจว่าเรื่องเกี่ยวกับพระเกี่ยวกับพระศาสนาที่ทำอยู่ทุกวันนี้ถูกแล้ว บุญมากพอแล้ว ก็เชิญยาวเลยครับ (โยงจนได้)


โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
Berlin,den 06.01.2017


ขอบคุณภาพประกอบจาก
www.dmc.tv
Zeedhama You tube
วัดวีระโชติธรรมาราม โดย หลวงพี่ต้น You tube
โพสต์ ทูเดย์

เพราะความลับไม่มีในอากาศ
>Talk--secret.blogspot.com
หลวงพ่อปาน..กับการชำระหนี้สงฆ์ โดย เจ้าคุณเบอร์ลิน หลวงพ่อปาน..กับการชำระหนี้สงฆ์ โดย เจ้าคุณเบอร์ลิน Reviewed by สารธรรม on 00:50 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.