พระหรือแพะ ใครโยกงบเงินทอน.?

โยกงบกับเงินทอน

ต่างกันอย่างไร.?

เงินทอนวัด เกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ทุจริต คือเมื่อได้รับเงินอุดหนุนมาก็ไปบอกกับทางวัดว่าท่านจะไปซ่อมแซมต่อเติมวัดอะไรก็ตามในเสนาสนะนี้ ก็ต้องแบ่งให้วัดอื่นบ้าง เส้นทางเงินจะเป็นอย่างนี้เช่นให้ไป 4 ล้าน ทอนมาสามล้านสอง

แล้วเงินก็กลับมาที่เจ้าหน้าที่ พอรับมาแล้วไม่ลงบัญชีกลับเข้าเป็นของรัฐ เอาไปเข้าบัญชีส่วนตัวบ้าง แล้วก็หายไปเลยบ้างอย่างนี้เรียกว่า เงินทอน 

อันนี้ชัดเจนว่าเป็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็อาจจะมีพระบางรูปที่ไปร่วมมือก็มีแต่เป็นเรื่องของพระบางรูปไม่ใช่ไปเหมารวมทั้งหมด

แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องใหม่

เป็นการโยกงบใช้งบไม่ถูกต้องแต่ถามว่า การโยกงบใครเป็นคนโยก วัดโยกหรือครับ.?

ถ้าตามหลักฐานที่ดูมาวัดไม่ได้เกี่ยวเลย คือทางเจ้าหน้าที่ไปเสนอให้มีการอนุมัติเบิกเงินออกมาก้อนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาพระปริยัติธรรมแน่นอนว่าถ้าคุณให้วัดไปคุณก็ต้องบอกรายละเอียดให้ชัดเจน

แต่ในคำขอต่างๆ เท่าที่เห็นหลักฐานก็ระบุว่า

ให้กับวัดที่มี สำนักเรียน หรือสำนักศาสนศึกษา หรือโรงเรียนปริยัติธรรม ก็ไม่ได้แปลว่าทุกวัดต้องมีโรงเรียนปริยัติธรรมนะครับ 

แต่ว่าให้ไปเพื่ออะไร...

ก็เพื่อการเผยแผ่ให้การศึกษา กับเยาวชน นักเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานบ้างประชาชนทั่วไป รวมทั้งข้าราชการบ้าง แนวทางเลยค่อนข้างกว้าง

เพราะฉะนั้นการที่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรมหรือไม่นั้น จึงยังไม่ใช่ข้อชี้ขาดว่าทางวัดเอาเงินไปแล้วใช้ผิดวัตถุประสงค์เป็นเรื่องผิด.!


ในฐานะที่เป็นอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผมก็ยังทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบภาคประชาชน ผมก็ไปขอความร่วมมือกับทางวัดสระเกศฯ ว่าขอดูหลักฐานที่เอาไปใช้จ่ายยังไง.?

เท่าที่ได้ดูมาก็ปรากฏว่าทางวัดก็ไม่ได้เอาไปใช้ที่ไหน เงินก็อยู่ในบัญชีของวัดทางวัด วัดก็ใช้ในกิจการของวัดเพียงแต่ว่า ไม่ได้ใช้จ่ายอยู่ในโรงเรียนพระปริยัติทั้งหมด 

แต่ว่าถ้ามีข้อจำกัดว่า

ให้ใช้อยู่ในโรงเรียนพระปริยัติทั้งหมด เท่าที่ดูจากหลักฐานเขาก็ไม่เคยบอกทางวัดนะครับว่าต้องใช้อยู่ในบริบทนั้น กลับมีช่องว่างอีกอันหนึ่งค่อนข้างกว้างก็คือ “หรือการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง” 

การที่ไม่ได้พูดให้ชัดเจนกับวัดว่า เรื่องนี้ต้องเอาไปจัดการศึกษาอย่างเดียว 

เพราะฉะนั้นทางวัดก็เอาไปใช้ในบริบทของการตอบสนองวัตถุประสงค์ของการตั้งงบประมาณนี้มาก็คือ "เพื่อความยั่งยืนของพระพุทธศาสนา"

เพราะว่า "การอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง" ของวัดนี่มีกิจการหลายอย่าง โดยเฉพาะพระสังฆาธิการซึ่งมีหน้าที่ให้การศึกษา ศาสนาสงเคราะห์ รวมทั้งให้ทุนการศึกษาสิ่งเหล่านี้มันก็เป็นเรื่องของการเผยแผ่

จะเรียกว่าใช้เงินผิดประเภทก็ได้

แต่ว่าวัดไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยแน่นอน เพราะว่าการเบิกเงินมาจากงบประเภทใด เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ

พระก็ไม่ได้รอบรู้ไปหมดในระเบียบเบิกจ่าย แม้แต่ส่วนราชการก็ยังทำระเบียบเบิกจ่ายไม่ครบถ้วนเลย เอาเงินประเภทไหนมาให้วัดแล้วก็ไม่บอกในรายละเอียด

พอวัดเอาไปใช้ในงานพระศาสนากลับมากล่าวหากัน.!

พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส
อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สตง.


อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
อดีตผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดินยันพระผู้ใหญ่ไม่ทุจริตตามผอ.พศ.ฟ้อง
http://www.banmuang.co.th/news/education/109603

ขอบคุณข้อมูลจาก
รายการถามตรงๆ ไทยรัฐทีวี
25 เม.ย. 2561

พระหรือแพะ ใครโยกงบเงินทอน.? พระหรือแพะ ใครโยกงบเงินทอน.? Reviewed by สารธรรม on 03:30 Rating: 5

9 ความคิดเห็น:

  1. ข้าราชการ(พ.ศ.)มารับหน้าที่กับวัดกับพระที่เป็นอายุพระพุทธศาสนามีศีล แต่เจ้าหน้าที่ข้าราชการ(พ.ศ.)บางคนหรือหลายคนที่ไม่มีศีลทำกันเป็นกระบวนการ ไม่กลัวนรก ไม่กลัวบาป ไม่รู้จักบุญ ทำทุจริตกันเป็นทีม แล้วป้ายสิ่งนี้ให้พระให้วัด ถึงแม้คดีความเสร็จสิ้นแล้วปรากฎว่าพระไม่ผิด แต่สิ่งที่ผิดฝังในใจประชาชนคือพระผิดความเสื่อศรัทธาวัด ยังฝังใจอยู่ เล่าต่อลูกหลาน ทำกันต่อๆ สิ่งนี้คือส่วนทำให้พระพุทธศาสนาสั้นลง(ไม่มีใครเข้าวัด ไม่ส่งลูกหลานมาบวช ไม่ไปบำรุงรักษาวัด) #ใครสั่งให้ทำกันแน่ #แก้ไขที่ต้นต่อคือข้าราชการในพศทั้งหมด

    ตอบลบ
  2. ข้าราชการทุจริตแต่พยายามป้ายความผิดไปที่พระ เพราะจับสึกและลงโทษง่ายเนื่องจากท่านไม่ทันเกมส์ของคนชั่ว ยิ่งกว่าเป็นแพะรับบาป เพราะความตายจากการเป็นพระด้วยข้อหาปาราชิกมีอันตรายรุนแรงกว่าการสิ้นชีวิตจากการตายปกติ ทั้งยังเป็นการวางธงตัดสินไว้ล่วงหน้าโดยยังไม่มีการไต่สวนอีกด้วย

    ตอบลบ
  3. หยุดสร้างบาปใส่ตัวเองกันเถอะค่ะพระ ท่านไม่ได้รู้เรื่องปัจจัยเลยค่ะ

    ตอบลบ
  4. ทำไปทำไมกันนะ
    เพื่อใครหรือครับ
    ใครสั่งมากันหรือ
    แล้วทำไมต้องทำตามละ
    ความเสียกับพระกับพระศาสนาจะรับผิดชอบใหวหรือ

    ตอบลบ
  5. วางยา ให้พระเป็นแพะรับบาป

    ตอบลบ
  6. กฏแห่งกรรม ไม่เคยลืมผู้กระทำ

    ตอบลบ
  7. "...ผู้ใดประพฤติล่วงธรรมคือผิดหน้าที่ด้วยอคติ ๔
    เพราะชอบ เพราะชัง เพราะกลัว เพราะหลง
    ยศคือชื่อเสียงและบริวารของผู้นั้นย่อมเสื่อม
    เหมือนดวงจันทร์ในวันข้างแรม ฉะนั้น..."

    ตอบลบ
  8. ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว

    ตอบลบ
  9. ไอ้พวกสื่อหนังสือพิมพ์​ตัวดี​ประโคมข่าวจนคนเข้าใจผิด​กัน​ รัฐบาล​ไอ้ตูบแม่งโคตรเลวจริงๆ​ตายไม่ดีแน่พวกมึง!!

    ตอบลบ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.